เมื่อประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 12 เมษายน 2559 Facebook มี Event ปล่อยของประจำปี เรียกกันว่า F8 ซึ่งปีนี้มีของแรงๆ มาใน concept Connecting People คือ Facebook มีหน้าที่จะเชื่อมต่อทุกคนสู่ internet (และแน่นอนต้องใช้ Facebook ด้วย) แบบที่ในอนาคต คนทั่วโลก จะต้องออนไลน์ได้ 100% พี่มาร์คตั้งเป้าไว้แบบนี้
ซึ่งในหลายๆอย่างที่พี่มาร์คพูดเมื่อคืนนี้ มันก็น่าสนใจมากๆ และน่าจะเปลี่ยนการใช้ชีวิตในอินเตอร์เน็ตของเราๆ อยู่หลายอย่าง เลยเอามาเล่าให้ฟังกัน ไม่รู้คนอื่นจะรู้สึกเหมือนกันหรือป่าว แต่สำหรับเรามันโคตรเจ๋งและยุ่มย่ามกับชีวิตเราจนน่ากลัวขึ้นทุกที อ่ะ! มาๆ ล้อมวงกันเข้ามา ลุงจะเล่านิทานให้ฟังงงงงงงง
1. Bot Facebook Chat!!! (For Business)
ข่าวดีสำหรับคนเหงาๆ เฝ้า Facebook คุณจะไม่เหงาอีกต่อไป เพราะถึงแม้คุณไม่มีเพื่อน คุณก็จะสามารถคุยกับ Bot ของ Brand ต่างๆได้เหมือน อิไก่ ซิมซิมิ แม้อาจจะไม่กวนตีนเท่าอิไก่ แต่มันจะมากับความสามารถที่เหนือกว่าอิไก่แน่นอน
อย่างที่บอก Bot พี่มาร์คไม่ได้มาเล่นๆ มันมี AI (Artificial Intelligence) ด้วย!! ซึ่งทำให้มันสามารถเรียนรู้ และตอบคำถามได้เหมือนคนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีคนคุยกับมัน แถมยังเรียนรู้ข้อมูลของเราไปพร้อมกัน
พอคุยจนเริ่มสนิทถูกคอกัน มันจะเริ่มเสนอสินค้าที่เราน่าจะสนใจ เสนอข่าวรายวันที่คิดว่าเราน่าจะสนใจ หรือแม้แต่เป็นผู้จัดการส่วนตัวจากข้อมูลในเฟซบุคของเราเอง เช่น พอเราเช็คอินจะบินไปไหน ถึงวันเดินทางมันก็เด้งขึ้นมาบอกว่า ไฟล์ทกี่โมง พร้อมปุ่ม check-in เรียบร้อย
ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูในวีดีโอ ว่ามันจะ Powerful แค่ไหน
อยากลองตอนนี้ก็ลองได้เลย น้องเค้าชื่อ Poncho เป็นบอทเอาไว้บอกพยากรณ์อากาศนะจ๊ะ
—————————————–
2. Account Kit : การล็อกอินแบบใหม่ ที่ไม่ต้องมี Username/Password หรือแม้แต่ Facebook Account!!!
ทุกวันนี้เพื่อนๆ ก็คงจะไม่มีใครมานั่งใส่ Username/Password กันแล้วใช่มั้ยหล้าาาา แค่กด Login with Facebook Account จึ๊กเดียว จบ!
แต่เดี๋ยวก่อน! พี่มาร์คคิดว่า แบบนี้ยังง่ายไม่พอ เลยเป็นที่มาของ Account Kit แนวคิดที่ว่า คุณไม่ต้องมี Facebook Account แค่ใส่เบอร์โทรศัพท์ ก็ใช้ Login ได้ทุกบริการ (นี่! Twitter เพิ่งเปิดบริการเดียวกันไป เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว พี่มาร์คแม่ง Copy มาซะเลย ฮาาาา)
การทำงานก็ง่ายๆ ใส่เบอร์โทร Facebook จะส่ง SMS รหัสสำหรับ login มา แล้วก็ใช้รหัสใน SMS ยืนยันตัวตนแค่นี้เอง
ความเจ๋งเลยนะ มัน Free! เคยเห็นบริษัทเค้าใช้แนวคิดเดียวกันนี่แหละ เป็น One time password ส่ง SMS ให้ลูกค้ายืนยันตัวตนก่อนทำรายการ มันคิดค่าบริการตั้งแพงอยู่นะ เดือนนึงๆ ก็เป็นหลายแสนอ่ะ นี่เฮียแกให้ใช้ Free! ส่งฟรีทั่วโลกด้วย! เยี่ยมไปเลย!
—————————————–
3. Live กับอะไรก็ได้! แม้แต่ตู้เย็น (ถ้ามันมีกล้องนะ)
ช่วงที่ผ่านมา คงจะเห็น feature LIVE ที่ทำให้ ใครๆ ก็กลายเป็น Celeb ได้ไปละ (เพราะ Live เนี่ยแหละ วันๆนั่งเลยมานั่งหัวเราะ พี่จิ๋ม กับ พี่กาแฟ)
Limitation ของ Live คือ ต้อง Live จากมือถือ เราเลยได้เห็นภาพแปลกๆ เมื่อสื่อใหญ่ๆต้องการจะใช่ Live ในการสร้าง Engagement อย่างข้างล่าง

ใช้ Rig จัดเต็มกับ iPhone
พี่มาร์คเลยจัดให้ เปิดเ็น Live API ให้ developer สามารถพัฒนาเครื่องมืออะไรก็ได้ ให้ใช้ Live ได้ผ่าน API ของ Facebook ซึ่งในอนาคตเราอาจจะได้เห็น Live ในตู้เย็น ก็ได้ ใครจะไปรู้
ความเจ๋งของมันคือ เมื่อก่อนเนี่ย การที่จะทำ Live Stream มันยุ่งยากมากนะ แต่นี่พี่มาร์คก็มาให้ใช้ Free! อีกแล้ววววว แล้วใช้ง่ายมากๆ แค่กด จึ๊กเดียว Live ได้เลย แถม Notify เพื่อนๆ กับ Follower ให้พร้อม เจ๋งโพดดดดดด
เท่านั้นยังไม่พอ! เฮียแกจัดให้เลย กล้องที่มาพร้อม Live Feature หน้าตาหน้ารักน่าชัง ชื่อว่า MEVO

MEVO หน้าตาน่ารักน่าชัง
ความสามารถไม่เล็กอย่างตัวนะครับ Feature หลักๆคือ 1) กดปุ๊บ Live ปั๊บ 2) ควบคุมจาก App 3) กล้องตัวเดียว แต่ทำหลาย shot และ switch ระหว่าง shot ได้!!!!! ไม่เชื่อ ดูคลิปเลย
แน่นอน การทำรายการสำหรับ Audience ใน Facebook จะไม่ใช่เรื่องยาก เหมือนทำรายการทีวีอีกต่อไป แค่มีไอ้ตัวเล็กนี่!
—————————————–
4. กล้องเทพถ่าย 8K ได้ 360 องศา พัฒนาเองโดย Facebook!!!
Facebook สนใจ VR (Virtual Reality) มาซักพักใหญ่ๆละ จริงจังแค่ไหนน่ะเหรอ ก็ขนาดที่ซื้อบริษัท Oculus ที่ทำ แว่นตา VR ที่ดีที่สุดในโลก ในราคา 2,000M$ เท่านั้นเอง!
**หมายเหตุ: พี่มาร์คแกเชื่อว่า VR คือทางที่จะเชื่อมคนสองคนที่อยู่ไกลกัน ให้ได้รู้สึกใกล้กันมากขึ้น ในโลก VR นั่นเอง แกเลยลงทุนกับมันเต็มที่ และมันจะเป็นอนาคตอันใกล้ที่จะได้เจอหน้ากัน เหมือนอยู่ในห้องเดียวกัน แม้จะอยู่คนละซีกโลก อีกไม่นานเกินรอ
ระหว่างนี้ พี่แกก็ทำ VDO 360 องศาออกมาให้เราได้เล่นกัน ซึ่งหลายๆคนก็น่าจะได้เห็นไปแล้ว ปัญหาที่ทำให้มันยังไม่เกิดเท่าที่ควรเพราะความจริงแล้ว การถ่ายวีดีโอ 360 องศา มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เทียบกับการถ่าย Panorama แล้ว Panorama เป็นเด็กอนุบาลเลย
Facebook เลยบอกว่า เอ้างั้นเราก็ทำกล้องขึ้นมาเป็นตัวอย่างสิ เขียน Software ให้ด้วย แล้วก็เช่นเคย ส่งพิมพ์เขียว พร้อม Software ให้ใช้กัน Free! หรือถ้าอยากซื้อ สั่งได้ ในราคา 30,000$ เท่านั้นเองงงงงง
น้องกล้อง 8K 360 องศาเนี่ย ชื่อว่า Facebook Surround 360 หน้าตาไม่น่ารัก แต่แรงมาก และเป็น Open Source

หน้าตาเหมือน UFO เลย มีกล้องบนล่างด้วยนะ
ความเจ๋งคือ Facebook สร้างขึ้นมา เพื่อเป็น ตัวอย่าง แล้วก็เปิดเป็น Open-source ให้ใครก็เอาไปทำตามได้ พร้อมให้ Software ไปฟรีๆ
—————————————–
นั่นคือทั้งหมดที่ น่าสนใจ และ Facebook ทำขึ้นเพื่อเปลี่ยนโลกใบนี้ เพื่อให้คนทุกคน สามารถ Connect กันได้สะดวก และง่ายยิ่งขึ้น
แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง สิ่งที่เราต้องแลกมาเพื่อความสะดวกสบายที่ Facebook สัญญาจะมอบให้ คือ ข้อมูลส่วนตัวของและความเป็นส่วนตัวของเรา เพราะทุกครั้งที่เราใช้บริการเหล่านี้ มันดูเหมือนจะเป็นบริการที่ Free แต่ความจริงแล้ว เราต้องเอาข้อมูลมากมายของเราไปแลกมา และอย่าลืมว่า Facebook ความจริงแล้วกำลังผันตัวไปเป็น Marketing Platform ที่ทรงพลังมากๆ platform หนึ่งที่คนทั้งโลกยอมใส่ตัวเองทั้งหมด เพื่อแลกกับการได้ใช้งาน
ความเจ๋งคือ Free! และ Powerful สุดๆ แต่มันคือ ความ Creepy ที่ต้องเอาข้อมูลไปแลกมานั่นเอง
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้
รักนะ จุ๊บๆ